ยูวีเอ-ยูวีบีรังสีร้ายอันตรายต่อผิว
แสงอาทิตย์ได้มอบแสงสว่างให้กับโลกทำให้สิ่งมีชีวิตดำรงอยู่ได้ แต่ขณะเดียวกันการแผ่ขยายรังสีด้วยความถี่ที่แตกต่างกันตามความยาวคลื่นแสงซึ่งแบ่งออกเป็นสามรูปแบบ คือ อัลตราไวโอเลตเอ(UVA), อัลตราไวโอเลตบี(UVB) และรังสีอัลตราไวโอเลตซี(UVC) ได้ส่งผลต่อผิวของเราอย่างไร PWP Hylu Collagen Sunscreen SPF 50 PA+++ มีคำตอบมาให้สำหรับผู้รักและเอาใจใส่ผิวเช้นคุณ
UVA – UVB – UVC ต่างกันอย่างไร
UVB เป็นรังสีคลื่นสั้น จึงส่งผลต่อปฏิกิริยาตามระดับความลึกของผิว สามารถสร้างอนุมูลอิสระในทุกระดับของผิวชั้นหนังกำพร้า สังเกตุได้จากหลังการตากแดดแล้วเกิดอาการผิวไหม้แดดและผิวแดง นั่นหมายถึงผิวของเราเกิดความละคายเคืองจากคลื่นสั้นของรังสี UVB เข้าให้แล้ว ความเข้มข้นของรังสี UVB จะแตกต่างกัน ผันผวนไปตามช่วงเวลาของแต่ละวัน (เข้มข้นสูงสุดช่วง 10 โมงเช้าถึง 4 โมงเย็น) ความแตกต่างของฤดูกาล หรือแม้กระทั่งความต่างกันของแต่ละสถานที่ ซึ่งไม่ว่าคุณจะอยู่ในร่มก็หนีไม่พ้น
ส่วน UVA รังสีคลื่นยาวที่ทรงพลังสามารถผ่านทะลุก้อนเมฆ หมอกควัน และกระจกได้อย่างไม่จำกัด แล้วนับประสาอะไรกับผิวของเราที่รังสีนี้สามารถแทรกซึมลึกลงไปยังผิวชั้นล่าง (ชั้นหนังแท้) ทำให้ผิวถูกทำร้ายในระยะยาวซึ่งเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดสัญญาณแห่งวัยที่ไม่ปรารถนาขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งบนใบหน้าของเรา และยังเป็นการก่อตัวของอนุมูลอิสระที่ส่งผลกระทบทางอ้อมต่อดีเอ็นเออีกต่างหาก
สำหรับรังสี UVC นั้นจะถูกบล็อกโดยชั้นบรรยากาศของโลก จึงไม่สามารถซึมผ่านเข้ามาก่อให้เกิดอันตรายต่อผิวหนังได้
ตราบใดที่เรายังต้องดำรงชีวิตอยู่ภายใต้ดวงอาทิตย์ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็หนีไม่พ้นรังสีอันตรายทั้ง 2 ซึ่งเป็นวายร้ายสำคัญที่ทำให้ผิวเราของเราไม่แข็งแรงเพราะทำให้อิลาสตินและความชุ่มชื้นลดลง ใบหน้าหมองคล้ำจากการก่อตัวของเม็ดสี และทำให้ดูหย่อนคล้อย
ดังนั้น การทาครีมกันแดดเพื่อป้องกันรังสี UVA และ UVB จึงเป็นการส่งมอบผู้พิทักษ์ให้แก่ผิว ที่นอกจากจะช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดซึ่งเป็นตัวแปรของการเปลี่ยนแปลงของสภาพผิวถึง 90 เปอร์เซ็นต์แล้ว ยังช่วยให้คุณปลอดภัยจากมะเร็งผิวหนังอีกด้วย PWP Hylu Collagen Sunscreen SPF 50 PA+++ ขอเป็นกำลังใจให้กับคนไทยทุกคนที่ต้องเผชิญกับอุณหภูมิ 40 องศาในฤดูร้อนของปีนี้